Flying Fox of Snowy Mountain จิ้งจอกภูเขาหิมะ PDF

Flying Fox of Snowy Mountain จิ้งจอกภูเขาหิมะ PDF

เรื่องโดย กิมย้ง (Louis Cha) เขาถือว่าเขาเป็นผู้เขียนนิยายกำลังภายในชาวจีนที่ไม่มีคนเทียบได้ ผลงานทั้งหมด 15 เรื่องของเขาถือว่าเป็นระดับสุดยอดนิยายกำลังภายในในตำนาน โดยเฉพาะ มังกรหยกทั้ง 3 ภาค จิ้งจอกภูเขาหิมะ 8 เทพอสูรมังกรฟ้า กระบี่เย้ยยุทธจักร และ อุ้ยเสี่ยวป้อ

ภาพ โดย หม่าหยงเฉิง (Ma Wing Shing) เขามีผลงานเด่นคือ ฟงหวิ๋น ขึ่พายุทะลุฟ้า (The Strom Rider) วีรบุรุษไร้น้ำตา และ Hero  นอกจากนี้ยังวาด ดาบมังกรหยก ฤทธิ์ดาบฟ้าทมิฬ เจ็ดศาสตรา และเสือดำ (Black Panther) และ จิ้งจอกภูเขาหิมะ

 
จิ้งจอกภูเขาหิมะ เป็นนิยายกำลังภายในของกิมย้ง ที่เขียนในปี 1956 ถือเป็นนิยายขนาดสั้น และเป็นนิยายลำดับที่ 5 ของเขา โดยเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสั้นที่กิมย้งเขียนได้ดีที่สุดและโดดเด่นที่สุดของยุทธจักรนิยาย ถึงแม้ว่า จิ้งจอกภูเขาหิมะ จะเขียนขึ้นก่อนจิ้งจอกอหังการ แต่กลับเป็นเรื่องราวภายหลังเหตุการณ์ในจิ้งจอกอหังการ อย่างไรก็ดี กิมย้งแต่งโดยให้ทั้งสองเรื่องเป็นเอกเทศแยกจากกัน โดยจิ้งจอกอหังการจะเรื่องราวสมัยวัยหนุ่มของ โอ้วฮุย และจะมีบางส่วนสปอยเนื่้อหาในเรื่องจิ้งจอกภูเขาหิมะอีกด้วย นอกจากนี้ นิยายเรื่องนี้ยังมีตัวละครบางตัวไป Cross over กับ จอใจจอมยุทธ์อีกด้วย

ฉากเป็นทางตอนเหนือของประเทศจีนซึ่งเป็นภูเขาหิมะ จุดเริ่มต้นจาก โอ้วฮุย มีนัดสะสางบัญชีกับ คนแซ่โต่ว แต่เนื่องจากคนแซ่โต่วนั้นรู้ว่า โอ้วฮุย เป็นยอดฝีมือสูงส่งมาก จึงได้เชิญยอดฝีมือจากทั่วทิศมารับมือ เช่น พุทธหน้าทอง เมี้ยวนั้งหงศ์ ผู้มีฉายาว่า พิชิตทั่วแผ่นดินไร้ผู้ต่อต้าน หลวงจีนชราป้อชิว และ ฮ่วมปังจู้ (ประมุขพรรคแซ่ฮ่วม) และพรรคกระยาจก โดยทั้งหมดได้มารวมตัวกันที่ตระกูลโต่ว

โดยก่อนที่โอ้วฮุยจะมาถึงนั้น แต่ละคนได้เล่าเรื่องราว โดยเริ่มจาก อู๋ซานกุ้ย หักหลัง ลี้จื่อเซ้ง โดยเปิดทางให้กองทัพนอกด่านเข้าตงง้วน ทำให้ลี่จื้อเซ้ง ติดวงล้อมของศัตรู แต่ขณะเหตุการณ์คับขัน องค์รักษ์คนสนิท คือ องค์รักษ์คนสนิทของคนแซ่โอ้ว ฉายา จิ้งจอกเหินฟ้า ได้ออกอุบายนำศพทหารมาปลอมแปลงเป็นศพของช่วงอ๋อง และเข้าสวามิภักษณ์ต่อ อู๋ซานกุ้ย แต่ ช่วงอ๋องตัวจริงได้หลบหนีไปแล้ว โดยระหว่างนั้น จิ้งจอกเหินฟ้าพยายามยุแยงให้อู๋ซานกุ้ย ผิดใจกับ ราชสำนัก แต่องค์รักษ์คนสนิทอีก 3 คนของช่วงอ๋อง เข้าใจผิดว่า จิ้งจอกเหินฟ้า นั้นเป็นคนหักหลังช่วงอ๋อง ได้แก่ แม่ทัพเมี้ยว คนแซ่ฮ่วน และคนแซ่ฉั้ง ทำให้ จิ้งจอกเหินฟ้า ถูกฆ่าตาย

ต่อมาบุตรชายของจิ้งจอกเหินฟ้า รู้เข้าก็นัดหมายองค์รักษ์ทั้ง 3 มาพบ และชี้แจงเรื่องจริงของช่วงอ๋อง องค์รักษ์ทั้ง 3 ก็ชิงฆ่าตัวตาย โดยไม่ได้บอกใคร ทำให้ลูกหลานของทั้ง 3 ตระกูลเข้าใจผิดว่า บุตรของจิ้งจอกเหินฟ้านั้น ฆ่าองค์รักษ์ทั้ง 3

อย่างไรก็ดี ดาบของช่วงอ๋องนั้นมีลายแทงขุมทรัพย์ของช่วงอ๋อง แต่ต้องใช้คู่กับปิ่นปักผมของตระกูลเมี้ยว

หลายสิบปีผ่านไป ทั้ง 3 ตระกูลยังติดใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมาถึงรุ่นของ เมี้ยวนั้งหงส์ โอ้วเจ่กต่อ (ฉายาโอ่วดาบเดียว) และภรรยา ฉั้งกุยล้ง และฉ่วมปังจู้

ต่อมาราว 27 ปีก่อน เมี้ยวนั้งหงส์ ประกาศตนเป็นผู้ไร้เทียมทาน เพื่อล่อให้ โอ้วเจ่อตอ ออกมาท้าประลองด้วย โดยโอ้วเจ่กตอ และภรรยา กำลังตั้งครรถ์ เดินทางมาที่ตงง้วนเพื่อรับคำท้าประลอง ความจริงแล้วเมี้ยวนั้งหงส์นั้นไม่ได้คิดแค้นต่อตระกูลโอ้ว เท่าไหร่แต่ติดใจปริศนาการตาย จึงต้องการชนะโอ่วเจ่กตอ เพื่อถามไถ่ปริศนา

ความจริง โอ้วเจ่กตอ นั้นได้บอกความจริงกับหมอที่ทำคลอดให้เมียของเขา แต่เนื่องจาก เมี้ยวนั้งหงส์ไม่อยู่ แต่คนที่รับฟังกลับเป็น ฉั้งกุยล้ง เขากลับปกปิดความลับนี้ไว้ เพื่อให้ทั้งสองสู้กัน โดยหมอคนนั้นคือ หลวงจีนชรา ป้อชิว

เมื่อทั้งคู่มาพบกัน ทั้ง เมี้ยวนั้งหงส์ และ โอ้วเจ่กตอ่ ก็เริ่มประลองยุทธ์กัน ทั้งสองเลื่อมใสในฝีมือของกันและกัน นับถือกันเป็นสหาย ทั้งสองต่อสู้กันเป็นระยะเวลาหลายวัน ก็ไม่รู้ผล ต่อมาทั้งสองได้สลับอาวุธกัน เพื่อเรียนรู้วิทยายุทธ์ของอีกฝ่าย ต่อมามีคนร้ายแอบฉาบยาพิษไว้ที่อาวุธของพวกเขา ต่อมาดาบของเมี้ยวนั้งหงส์กลับสะกิดโลหิตของโอ้วเจ่กตอ ทำให้พิษแล่นเข้าหัวใจทันที ภรรยาของโอ้วเห็นเข้าก็แทงตัวเองตายตามโดยฝากฝังบุตรชายไว้กับเมี้ยวนั้งหงส์ที่รับปากรับเป็นลูกบุญธรรม

แต่เมี้ยวนั้งหงส์ พอกลับไปที่ห้องนอนของโอ้วเจ่กตอ กลับไม่พบทารกแต่ความจริงแล้ว เพ้งอาสี่ ผู้ติดหนี้บุญคุณโอ้วเจ่กตอ เข้าช่วยเหลือไว้ โดยอุ้มออกมาจากโรงเตี้ยม แต่ระหว่างทางเขาถูกฉั้งกุยล้งฟันแขนขาด

27
ปีผ่านไป เด็กทารกเติบใหญ่เป็นโอ้วฮุย (หรือหูเฟย) จิ้งจอกภูเขาหิมะ เขาสืบทราบว่า ฉั้งกุยล้ง เป็นผู้วางยาพิษทำให้บิดาและมารดาของตนต้องตาย ทำให้ ฉั้งกุยล้ง ต้องถอนตัว แต่ในวันประกาศล้างมือ นั้น เมี้งนั้งหงส์กลับเดินทางมาพบ ฉั้งกุยล้ง เพื่อสอบถามการตายของภรรยาของเมี้ยวนั้งหงส์ ฉั้งกุยล้ง รู้สึกเสียใจ จึงได้มอบปิ่นปักผมคืนให้แก่ เมี้ยวนั้งหงส์ ฉั้งกุยล้งรู้สึกคับแค้นใจอยากตายจึงเอาธนูของเท่าจื้ออันฆ่าตัวตาย ทำให้สำนักมังกรฟ้าผิดใจกับพ่อลูกแซ่เทาอีก

มาถึงตอนนี้ ปิ่นปักผมที่อยู่กับเมี้ยวเยยลั้ง (ลูกของเมี้ยวนั้งหงส์) ได้นำปิ่นปักผมติดตัวไปเพื่อหาขุมทรัพย์ ที่อยู่บนภูเขาหิมะ โดยเมื่อมาถึงตระกูลโต่ว โอ้วฮุย ก็มาถึง และทั้งคู่ไปหลบซ่อนใต้เตียงเพื่อดูเรื่องราว โดยจังหวะนั้นเอง เมี้ยวนั้งหงส์ติดกับดัก เจ้าของบ้านแซ่โต่ว พอดี ทำให้โอ้วฮุยเข้าช่วยเหลือ แต่เนื่องจาก เห็นว่า อยู่เตียงเดียวกับบุตรสาว จึงโมโห โอ้วฮุยมาก โอ้วฮุยเห็นว่า เรื่องไปกันใหญ่ จึงรีบหนีไปก่อน

ความจริงแล้ว ขุมทรัพย์ของช่วงอ๋องนั้นนอกจากปิ่นปักผม กับดาบแล้ว ยังมีบทกวีที่บอกลายแทงขุมทรัพย์ ซึ่งโอ้วเจ่กตอ รู้เรื่องบทกวีจึงได้ออกตามหาขุมทรัพย์อยู่แล้ว เมียของโอ้วเจ่กตอ ก็เป็นญาตักับโต่วฮีเม้งอีก ทำให้โต่วฮีเม้งทราบเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งโอ้วเจ่กตอ นั้นได้บันทึกเรื่องราวไว้ในบันทึกทีส่งมอบให้โอ้วฮุย ตอนนี้โอ้วฮุย ต้องขึ้นภูเขาพิมะนี้เพื่อชิงห่อผ้าจาก โต้วฮีเม้งคืน นอกจากนี้ ในถ้ำขุมทรัพย์ยังมีความลับอีกอย่างซ่อนอยู่ คือ ศพของบิดาเมี้ยวนั้งหงส์และ ฉั้งกุยล้งตายในสภาพที่ฟันกันตายอีกด้วย

โอ้วฮุยพออกจากบ้านของโต่วฮีเม้ง ก็ทราบว่าพวกหลวงจีนป้อชิวต้องไปที่ขุมทรัพย์ของช่วงอ๋องแน่ ซึ่งอันที่จริงนั้นขุมทรัพย์ช่วงอ๋องเป็นสถานที่พบรักของโอ้วเจ่กตอสองสามีภรรยานั่นเอง ขอเล่ากลับไปยังความหลังบ้างแต่เดิมนั้นนอกจากดาบวิเศษ ปิ่นปักผมแล้ว ยังมีบทกวีที่บอกลายแทงของขุมทรัพย์อีก โอ้วเจ่กตอทราบเรื่องกวีจึงออกตามหาขุมทรัพย์ส่วนโอ้วฮูหยินเป็นญาติของโต่วฮีเม้งก็ทราบเรื่องนี้ด้วย ทั้งสองพอหาขุมทรัพย์ไปบังเอิญมีเรี่องกัน แต่ยิ่งต่อสู้ยิ่งนิยมชมชอบกันในที่สุดร่วมมือกันหาขุมทรัพย์จนเจอ และต่างสาบานรักกันโดยบอกว่าทรัพย์สมบัติของช่วงอ๋องไหนเลยยิ่งใหญ่เท่ารักแท้โดยเขียนไว้ที่ผนังภายในขุมทรัยพ์ และยังได้เขียนบันทึกเรื่องราวเหล่านี้ไว้ให้โอ้วฮุยอีกด้วย พอโอ้วฮุยโตขึ้นได้มาอาศัยอยู่กับโต้วฮีเม้งด้วยโต่วฮีเม้งละโมภอยากได้ทรัพย์สมบัติพอดีเห็นห่อผ้า"พิชิตทั่วแผ่นดินไร้ผู้ต่อต้าน"ของเมี้ยวนั้งหงส์ที่เคยห่อให้โอ้วฮุยตอนแรกเกิด ก็เข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับขุมทรัยพ์จึงได้เก็บมันเอาไว้ครอบครอง ซึ่งโอ้วฮุยได้ขึ้นเขาหิมะขึ้นมานั้นก็เพื่อต้องการห่อผ้านี้คืนนั่นเอง

ซึ่งภายในขุมทรัยพ์นั้นนอกจากอักษรจารึกรักแท้ของโอ้วเจ่กตอสองสามีภรรยาแล้วยังมีศพของบิดาของเมี้ยวนั้งหงส์และฉั้งกุยล้งตายโดยสภาพศพอยู่ในท่วงท่าฆ่าฟันกันอยู่ด้วย

โอ้วฮุยเห็นพวกหลวงจีนป้อชิวโลภมากจึงปิดทางเข้าออกของขุมทรัยพ์เอาไว้ โอ้วฮุยและเมี้ยเยียกลั้งรู้สึกชอบพอกันจึงสาบานฝากรักกันโดยเมี้ยวเยียกลั้งบอกว่า"ข้าพเจ้าจะเลียนเยี่ยงมารดาท่าน มิให้เป็นเยี่ยงมารดาข้าพเจ้าเด็ดขาด"อันหมายความว่าตนจะรักมั่นโอ้วฮุยจำแม้วันตายเหมือนกันโอ้วฮูหยิน และจะไม่ทรยศหักหาญน้ำใจตนดังที่น้ำลั้งทำกับเมี้ยวนั้งหงส์นั่นเอง

ส่วนเมี้ยงนั้งหงส์พอสยบเหล่ายอดฝีมือได้ ก็ติดตามโอ้วฮุยและธิดาของตนมา เห็นทั้งสองกอดกันกลางหิมะ ก็พลันสะกิดถึงภรรยาของตนเองจนคิดจะฆ่าโอ้วฮุย

ฝ่ายโอ้วฮุยเองก็ต้องการพิสูจน์ว่าระหว่างดาบตระกูลโอ้วของตน กับเพลงกระบี่ตระกูลเมี้ยวของท่าน ที่แท้เป็นวิชาฝีมือใดเป็นอับดับหนึ่งของแผ่นดินกันแน่

ทั้งสองได้ต่อสู้กันบนยอดของภูเขาหิมะ โดยเมี้ยวนั้งหงส์อาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมมาเนิ่นนานกว่าบวกกับเคล็ดความพิสดารของวิชาฝีมือเข้าหักหาญโอ้วฮุย ส่วนโอ้วฮุยอาศัยพละกำลังที่หนุ่มแน่นกว่าเข้าต่อกร

จนกระทั่งในที่สุดเมี้ยวนั้งหงส์สามารถลุกไล่โอ้วฮุยจนมือไม้ปั่นป่วนได้และทันใดนั้นก็ติดตามมาด้วยท่าตวัดกระบี่กระเรียนขาวสยายปีกทันที แต่โอ้วฮุยทราบถึงจุดอ่อนจุดนี้จึงคิดชิงลงมือ

Download Flying Fox of Snowy Mountain จิ้งจอกภูเขาหิมะ PDF

Related Posts

แสดงความคิดเห็น

Subscribe Our Newsletter